รวมเกร็ดความรู้...สาระดีๆ น่าศึกษา
Sunday, June 24, 2012
ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C
ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C
หรือป่าว !! ทำไม ตัวอักษรในแป้นพิมพ์ทั้งของเครื่องพิมพ์ดีดและคอมพิวเตอร์ ถึงไม่เรียงกันตามลำดับอักษรเช่น A B C
สำหรับการเรียงอักษรบนแป้นพิมพ์ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเรียง ที่เรียกว่า QWERTY (คิวเวอร์ตี้) ที่เรียกกันอย่างนี้เพราะเป็นการนำอักษร 6 ตัวแรก(เมื่อนับจากซ้ายมาขวา) ของแป้นพิมพ์ที่เป็นตัวอักษรแถวบนมาต่อกัน และถ้าหากจะถามว่าทำไมถึงต้องเรียงแบบนี้ เราคงต้องย้อนกลับไปในอดีตกันซะหน่อย การเรียงลำดับ อักษรของแป้นพิมพ์ในปัจจุบันนั้น มีที่มาจากข้อจำกัดที่เกิดกับเครื่องพิมพ์ดีดในยุคแรกๆ ที่ยังจัดแป้นพิมพ์แบบเรียงตามลำดับตัวอักษรคือ เมื่อคนที่พิมพ์ดีดได้คล่องและเร็วมาพิมพ์จะทำให้ก้านพิมพ์ดีดขัดกันอยู่ เสมอ ต่อมา คริสโตเฟอร์ ลาแธม โชลส์ 1868 จึงทำการเรียงลำดับตัวอักษรเสียใหม่ด้วยการแยกตัวอักษรที่มักใช้มาผสมเป็นคำ ร่วมกันบ่อยๆ ออกไปอยู่กันคนละฝั่งของแป้นพิมพ์ เพื่อทำให้นักพิมพ์ดีดพิมพ์ได้ช้าลงกว่าเดิม จะได้ไม่เกิดปัญหาก้านพิมพ์ขัดกันอีก อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกผู้คนยังคงไม่นิยมเครื่องพิมพ์ดีดของเขามากนัก ทำให้โชลส์ตัดสินใจขายสิทธิบัตรดังกล่าวให้กับทางบริษัท เรมิงตันอาร์มคอมพานี ในปี 1973 ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่ทางเรมิงตันผลิตเครื่องพิมพ์ดีดออกมาจำหน่าย ความนิยมในตัวเครื่องพิมพ์ดีดกลับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ใน เวลาต่อมา ปรากฏว่ามีผู้พยายามจัดเรียงตัวอักษรบนแป้นพิมพ์เป็นแบบต่างๆ ซึ่งแบบที่ได้รับความนิยมมากหน่อยก็อย่างเช่น แบบ DVORAK ซึ่งเคยมีการบอกกล่าวกันว่าการเรียงในรูปแบบนี้จะทำให้พิมพ์เร็วขึ้น จนทางห้างร้านบริษัทหลายแห่งเริ่มนิยมกันอยู่พักหนึ่ง แต่ว่าในปี 1956 ทาง General Services Administration ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่หน่วย
งานอื่นๆของรัฐ ได้ทำการศึกษาการจัดแป้นพิมพ์ทั้ง 2 แบบ และก็พบว่า การจัดแบบ QWERTY นั้น ทำให้พิมพ์ได้เร็วเท่ากับหรือมากกว่าแบบ DVORAK ทำ ให้ความนิยมของการจัดแป้นพิมพ์แบบ DVORAK ลดลงไป ทั้ง นี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ปัจจุบันเราก็ไม่ได้นิยมใช้พิมพ์ดีดแบบเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นปัญหาเรื่องก้านพิมพ์ขัดกันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาต่อไป แล้วทำไมเราจึงไม่เปลี่ยนกลับไปใช้แป้นพิมพ์แบบเรียงตามตัวอักษรเหมือนก่อน ซึ่งคำตอบสำหรับคำถามนี้หลายคนคงพอเดากันได้ว่าเป็นเพราะ เราคุ้นเคยและเคยชินกับแบบ QWERTY จนไม่อยากจะกลับไปเสียเวลาเริ่มนับหนึ่งกับแบบเดิมเสียแล้ว วิศวกรเครื่องกลชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดสมัยใหม่รายแรกและได้รับสิทธิบัตรในปี
เครดิต: http://www.girlzeed.com/view_forward.php?id=984
นิสัย 10 อย่าง ที่ทำให้ความจำเสื่อม สมองฝ่อ
เรื่อง รู้ไว้ นิสัย 10 อย่าง ที่ทำให้ความจำเสื่อม สมองฝ่อ
1.ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2.กินอาหารมากเกินไป การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น (เช่น เทพธิดาดิว เป็นต้น)
3.การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์
4.ทานของหวานมากเกินไป การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาองสมอง
5.มลภาวะ สมอง เป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกายการสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไป จะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง
6.การอดนอน การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อนการอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้
7.นอนคลุมโปง การนอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8.ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วยจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
เครดิต : http://www.girlzeed.com/view_forward.php?id=1356
Saturday, June 23, 2012
ผ้าขนหนู ช่วยลดอาการปวดต้นคอได้ เวลานอน
อาการปวดต้นคอ ที่อาจเกิดจากการอยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งผิดท่า
ต้องก้ม-เงยหน้าเป็นเวลานาน หรือเกิดจากความเครียด มีวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้น
ซึ่งในหนังสือ New Choices in Natural Healing แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนู
2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1 มีขั้นตอน คือ
- พับปลายผ้าขนหนูตามแนวยาวทั้งสองด้านเข้าหากันในตำแหน่งกึ่งกลางผ้า
- ม้วนปลายผ้าจากด้านซ้ายไปขวาตามแนวกว้าง
- นอนหงาย นำผ้าขนหนูที่ม้วนไว้มาหนุนคอ และเลื่อนขึ้นบน-ล่างของคอ เพื่อให้ผ้าขนหนูอยู่ในตำแหน่งที่สบายคอมากที่สุด
- นอนค้างไว้ในท่านั้นนาน 15-20 นาที
วิธีที่ 2 มีขั้นตอน คือ
- พับผ้าขนหนูตามแนวยาวเป็นสามทบ
- ถือปลายผ้าทั้งสองข้าง พาดส่วนกลางผืนไว้บริเวณท้ายทอย
- ออกแรงดึงปลายปลายผ้าทั้งสองข้างมาด้านหน้า และพยายามหงายศรีษะไปด้านหลังเพื่อต้านแรงดึงปลายผ้า
- ทำท่านี้ค้างไว้ 30 วินาที แล้วจึงผ่อนแรงโดยทำทั้งหมด 10 ครั้ง
อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายอย่างผ้าขนหนู สามารถนำมาบรรเทาอาการปวดเมื่อยต้นคอ
ได้ง่ายๆ แต่ถ้าอาการปวดไม่ทุเลา ปวดเพิ่มมากขึ้น ปวดร้าวไปที่บริเวณอื่น
เช่น ไหล่ แขน โดยอาจมีอาการชา หรือกล้ามเนื้อมือหรือขาอ่อนแรงร่วมด้วย
ควรปรึกษาแพทย์
ต้องก้ม-เงยหน้าเป็นเวลานาน หรือเกิดจากความเครียด มีวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้น
ซึ่งในหนังสือ New Choices in Natural Healing แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนู
2 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1 มีขั้นตอน คือ
- พับปลายผ้าขนหนูตามแนวยาวทั้งสองด้านเข้าหากันในตำแหน่งกึ่งกลางผ้า
- ม้วนปลายผ้าจากด้านซ้ายไปขวาตามแนวกว้าง
- นอนหงาย นำผ้าขนหนูที่ม้วนไว้มาหนุนคอ และเลื่อนขึ้นบน-ล่างของคอ เพื่อให้ผ้าขนหนูอยู่ในตำแหน่งที่สบายคอมากที่สุด
- นอนค้างไว้ในท่านั้นนาน 15-20 นาที
วิธีที่ 2 มีขั้นตอน คือ
- พับผ้าขนหนูตามแนวยาวเป็นสามทบ
- ถือปลายผ้าทั้งสองข้าง พาดส่วนกลางผืนไว้บริเวณท้ายทอย
- ออกแรงดึงปลายปลายผ้าทั้งสองข้างมาด้านหน้า และพยายามหงายศรีษะไปด้านหลังเพื่อต้านแรงดึงปลายผ้า
- ทำท่านี้ค้างไว้ 30 วินาที แล้วจึงผ่อนแรงโดยทำทั้งหมด 10 ครั้ง
อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายอย่างผ้าขนหนู สามารถนำมาบรรเทาอาการปวดเมื่อยต้นคอ
ได้ง่ายๆ แต่ถ้าอาการปวดไม่ทุเลา ปวดเพิ่มมากขึ้น ปวดร้าวไปที่บริเวณอื่น
เช่น ไหล่ แขน โดยอาจมีอาการชา หรือกล้ามเนื้อมือหรือขาอ่อนแรงร่วมด้วย
ควรปรึกษาแพทย์
ที่มา : ผ้าขนหนูลดปวดต้นคอ - นิตยสารชีวจิต ปีที่ 12 ฉบับ 1 ก.ย. 2553, ปวดต้นคอ ทำอย่างไร?
ป้องกันหนังสือขึ้นรา โดยใช้ผงเบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) หรือมีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) ที่รู้จักดีในนามของ "ผงฟู" ส่วนประกอบที่ช่วยทำให้อาหารขึ้นฟู ซึ่งเบกกิ้งโซดา ยังมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ มีความสามารถในการขจัดคราบบนพื้นผิวต่างๆ เป็นสารฟอกขาวในการซักผ้า และยังสามารถช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในที่ต่างๆ ได้อีกด้วย
สำหรับขจัดคราบสกปรกบนพื้นผิวต่างๆ อย่าง พื้นครัว พื้นห้องน้ำ อ่างล้างหน้า ฯลฯ ให้ละลายเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 4 ถ้วย เช็ดทำความสะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
กรณีคราบที่ทำความสะอาดยาก เช่น จานกระเบื้อง ผนังห้องน้ำ ให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่ากันคนจนเป็นแป้ง พอกทิ้งไว้บนคราบประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเช็ดออก
ส่วนคราบที่อยู่บนพื้นผิวฟอร์เมก้า(พื้นไม้เคลือบเงา) สแตนเลส โครเมี่ยม เช่น เตารีด เครื่องครัวต่างๆ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำผสมเบกกิ้งโซดาบิดพอหมาด เช็ดให้สะอาด
ส่วน กลิ่นอับตามตู้ต่างๆ เช่น ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ตู้กับข้าว ฯลฯ ให้เทเบกกิ้งโซดาใส่ในภาชนะในปริมาณพอเหมาะ จากนั้นนำไปวางไว้ที่ด้านในสุดของตู้ และควรเปลี่ยนเบกกิ้งโซดา ทุกๆ 3 เดือน
นอกจากนี้ เบกกิ้งโซดา ยังสามารถขจัดกลิ่นอับบนพรมได้ โดยโรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่วพรม ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก แต่ถ้าเป็นกลิ่นอับในกระบะอึของสัตว์เลี้ยงตัวโปรด โรยผงเบกกิ้งโซดาให้ทั่วกระบะ ก่อนเททรายลงไป กลิ่นจากกระบะอึ ก็จะจางลง สามารถใช้แทนน้ำยาทำความสะอาดได้หลากหลายอย่างปลอดภัย ไม่เป็นพิษและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แม้แต่หนังสือเก่าเก็บจนขึ้นราอยู่บนชั้นหนังสือ เบกกิ้งโซดาก็สามารถช่วยได้โดย ทำหนังสือให้แห้ง แล้วโรยผงเบกกิ้งโซดาลงไประหว่างหน้าหนังสือทิ้งไว้ 2-3 วัน จากนั้นปัดผงเบกกิ้งโซดาออก จะช่วยลดกลิ่นเหม็นอับจากเชื้อราได้เพราะ เบกกิ้งโซดามีประสิทธิภาพในการดับกลิ่น และดูดความชื้น
สารพัดประโยชน์อย่างนี้ ซื้อติดบ้านไว้ก็ดี.
สำหรับขจัดคราบสกปรกบนพื้นผิวต่างๆ อย่าง พื้นครัว พื้นห้องน้ำ อ่างล้างหน้า ฯลฯ ให้ละลายเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 4 ถ้วย เช็ดทำความสะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
กรณีคราบที่ทำความสะอาดยาก เช่น จานกระเบื้อง ผนังห้องน้ำ ให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่ากันคนจนเป็นแป้ง พอกทิ้งไว้บนคราบประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเช็ดออก
ส่วนคราบที่อยู่บนพื้นผิวฟอร์เมก้า(พื้นไม้เคลือบเงา) สแตนเลส โครเมี่ยม เช่น เตารีด เครื่องครัวต่างๆ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำผสมเบกกิ้งโซดาบิดพอหมาด เช็ดให้สะอาด
ส่วน กลิ่นอับตามตู้ต่างๆ เช่น ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ตู้กับข้าว ฯลฯ ให้เทเบกกิ้งโซดาใส่ในภาชนะในปริมาณพอเหมาะ จากนั้นนำไปวางไว้ที่ด้านในสุดของตู้ และควรเปลี่ยนเบกกิ้งโซดา ทุกๆ 3 เดือน
นอกจากนี้ เบกกิ้งโซดา ยังสามารถขจัดกลิ่นอับบนพรมได้ โดยโรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่วพรม ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก แต่ถ้าเป็นกลิ่นอับในกระบะอึของสัตว์เลี้ยงตัวโปรด โรยผงเบกกิ้งโซดาให้ทั่วกระบะ ก่อนเททรายลงไป กลิ่นจากกระบะอึ ก็จะจางลง สามารถใช้แทนน้ำยาทำความสะอาดได้หลากหลายอย่างปลอดภัย ไม่เป็นพิษและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แม้แต่หนังสือเก่าเก็บจนขึ้นราอยู่บนชั้นหนังสือ เบกกิ้งโซดาก็สามารถช่วยได้โดย ทำหนังสือให้แห้ง แล้วโรยผงเบกกิ้งโซดาลงไประหว่างหน้าหนังสือทิ้งไว้ 2-3 วัน จากนั้นปัดผงเบกกิ้งโซดาออก จะช่วยลดกลิ่นเหม็นอับจากเชื้อราได้เพราะ เบกกิ้งโซดามีประสิทธิภาพในการดับกลิ่น และดูดความชื้น
สารพัดประโยชน์อย่างนี้ ซื้อติดบ้านไว้ก็ดี.
Subscribe to:
Posts (Atom)